วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ภาษาพูดและภาษาเขียน

ภาษาพูด และภาษาเขียน
               ภาษาพูด  เป็นภาษาระดับไม่เป็นทางการ คือ ภาษาที่เปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำพูด เพื่อสื่อความหมายให้รู้เรื่อง
               ภาษาเขียน คือ ภาษาที่ทางราชการกำหนดขึ้น เพื่อใช้เป็นแบบฉบับของการเขียนหนังสือไทยในราชการ
ระดับภาษา  แบ่งออกเป็น ๒ แบบ คือ
     ๑. ภาษาแบบเป็นทางการ  แบ่งเป็น ๒ ระดับ คือ
                ๑.๑ ภาษาระดับพิธีการ  เป็นภาษาที่สมบูรณ์และมีรูปประโยคความซ้อนให้ความหมายค่อนข้างมาก ถ้อยคำที่ใช้เป็นภาระดับสูง ผู้ใช้ภาษาระดับนี้จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ภาษาระดับพิธีการนี้จะใช้ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น ในงานพระราชพิธี  นอกจากนี้ยังใช้ในวรรณกรรมชั้นสูงอีกด้วย
                ๑.๒ ภาษาระดับมาตรฐานราชการ  ภาษาระดับนี้จะไม่อลังการเท่าภาษาระดับพิธีการ แต่เป็นภาษา  ที่สมบูรณ์และถูกหลักไวยากรณ์ มีความชัดเจน สละสลวย  ผู้ใช้ต้องละเอียด ประณีตและระมัดระวัง  ภาษาระดับมาตรฐานราชการนี้จะใช้ในโอกาสสำคัญที่เป็นทางการ เช่น การกล่าวคำปราศรัย การกล่าวเปิดการประชุม นอกจากนี้ยังใช้ในการเขียนงานวิชาการ เรียงความ บทความวิชาการ และคำนำหนังสื่อต่าง ๆ เป็นต้น
     ๒. ภาษาแบบไม่เป็นทางการ  เป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกันโดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน  แบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ
                ๒.๑ ภาษาระดับกึ่งทางการ  ภาษาระดับนี้จะใช้รูปประโยคง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ใช้ถ้อยคำระดับสามัญ บางครั้งมีภาษาระดับสนทนาเข้ามาปนด้วย  ภาษาระดับนี้ใช้ในการติดต่อธุรกิจการงานหรือใช้กับบุคลที่     ไม่สนิท และใช้ในการเขียนเรื่องที่ผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านรู้สึกว่ากำลังฟังเราเล่าอยู่ เช่น การเขียนสารคดีท่องเที่ยว บทความแสดงความคิดเห็น การเล่าเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น
                ๒.๒ ภาษาระดับสนทนา ภาษาระดับนี้รูปแบบประโยคจะไม่ซับซ้อน ถ้อยคำอาจใช้คำสแลง คำตัด คำย่อปนอยู่ แต่จะไม่ใช้คำหยาบ  ภาษาระดับนี้ใช้ในการสนทนาในชีวิตประจำวันระหว่างคนที่คุ้นเคยกันและใช้ในการเจรจาซื้อขายทั่วไป  หรือใช้ในการเขียนนวนิยาย บทความ สารคดี และรายงานข่าว เป็นต้น
                ๒.๓ ภาษาระดับกันเองหรือภาษาปาก  ภาษาระดับนี้ใช้สนทนากับผู้ที่สนิทสนมกันมาก ๆ เช่น ในหมู่เพื่อนฝูงหรือในครอบครัวและมักใช้พูดในที่ที่เป็นส่วนตัว ถ้อยคำจะมีคำตัด คำสแลง คำต่ำ คำหยาบ ปนอยู่มาก ภาษาระดับนี้จึงไม่ใช้ในการเขียนทั่วไป นอกจากงานเขียนบางประเภท เช่น นวนิยาย เรื่องสั้น บทละคร เป็นต้น

ประวัติโรงเรียนประสาทรัฐประชากิจ

    

     ในปี พ.ศ.2519 สมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชเป็นนายกรัฐมนตรีนายธงชัย ยงสุนทร สมาชิกสภาจังหวัดราชบุรี ได้ปรึกษาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเจ้าอาวาสวัดปราสาทสิทธิ์ คือท่านพระครูประสาทรัตนกิจ เพื่อขอสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำตำบลขึ้น ณ ตำบลประสาทสิทธิ์ ท่านเจ้าอาวาสจึงได้มอบที่ดินของวัด จำนวน 43 ไร่เศษ เพื่อใช้ก่อสร้างโรงเรียน

อ่านเพิ่มเติม(ประวัติโรงเรียนประสาทรัฐประชากิจ)

ประวัติส่วนตัว



ชื่อ            นางสาวหทัยสรวง   ตรีอุดม
ชื่อเล่น      ยุ้ย
ภูมิลำเนา  อ.โพธาราม  จ.ราชบุรี
ทำงาน     โรงเรียนประสาทรัฐประชากิจ
ตำแหน่ง   ครูผู้ช่วย

ค้นปุ๊บ รู้ป๊บ